พื้นที่เล็กๆ หลังโรงเรียนบ้านปรางคล้า ถูกจัดสรรให้เป็นแปลงปลูกผักนามว่า สวนผักปลอดสารพิษลูกช้าง ที่นี่คือแหล่งเรียนรู้ชั้นดี ในการทักษะอาชีพ นอกห้องเรียน

การทำสวนผักลูกช้าง ถูกออกแบบให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ในทุกๆ มิติเกี่ยวกับการปลูกผัก ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ดังนั้น ไม่เพียงแต่ เด็กๆ จะได้ฝึกปลูกผัก รดน้ำ พรวนดิน แต่พวกเขายังได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่โดยตรง ตั้งแต่เรื่องการคัดเมล็ดพันธุ์ ชนิดของดินที่แตกต่างกัน การปรุงดินให้เหมาะสม กับพืชแต่ละชนิด การดูแลผัก การทำปุ๋ยหมักจากธรรมชาติ ตลอดจนการเก็บเกี่ยวผลผลิต การตั้งราคา และการบรรจุเพื่อนำส่งขาย

“ที่เราอยากให้เด็กๆ ได้ทำโครงการปลูกผัก เพราะเราอยากให้เขาได้เรียนรู้เรื่องการประกอบอาชีพ การปลูกผัก คือการวางแผน พอผักโต นำผักไปขาย เด็กๆ จะได้เรียนรู้ เรื่องต้นทุน - กำไร ไม่ใช่แค่เรื่องการปลูกผักอย่างเดียว” คุณจิณิณ ตระการสืบกุล ประธานมูลนิธิ อิ่มอกอิ่มใจ ผู้สนับสนุนหลักของ โครงการฯ กล่าวถึงเหตุผลที่ทำโครงการสวนผักลูกช้างไว้อย่างน่าสนใจ พร้อมเล่าวว่า ในอนาคต มูลนิธิอิ่มอกอิ่มใจ จะสนับสนุนให้ทำแผงจำหน่าย สินค้าเกษตรจากเด็กๆ ทั้งผักปลอดสาร ทั้งสินค้าแปรรูป เพื่อให้เด็กๆ มีรายได้เสริม รู้จักการขาย ฝึกจดบันทึกต้นทุนกำไร

ผักที่น้องๆ ปลูก ได้แก่ ผักกาดหอม ผักคอส ผักกาดแก้ว ผักเคล มะเขือเทศ มะเขือเปราะ และผักสวนครัวชนิดอื่นๆ โดยผลผลิตที่ได้ ล็อตแรก ได้ทำการแจกจ่ายให้กับนักเรียน ครู และผู้ปกครองไปประกอบอาหารที่บ้าน ล็อตที่ 2 ได้นำไปฝากขายที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขาใหญ่ ซึ่งทางโรงแรม ได้สนับสนุน ผลผลิตของนักเรียนเป็นอย่างดี

ไม่น่าเชื่อว่า การเปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง เสริมทักษะที่จำเป็นให้พวกเขา ก็สามารถส่งเสริมสร้างผู้ประกอบการผ่าน แปลงผักได้ แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ แต่สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นทักษะติดตัวเด็กๆ ไปตลอด